ซูเปอร์มาริโอ้ เกมผจญภัย ในความทรงจำวัยเด็ก <3

ซูเปอร์มาริโอ้

ซูเปอร์มาริโอ้ ผจญภัยตะลุยด่าน กับภารกิจช่วยเจ้าหญิง จากการถูกลักพาตัว

ซูเปอร์มาริโอ้ เกมในความทรงจำ ของเด็กยุคเก่า จากค่าย Nintendo ที่ไม่ว่าใครได้เล่น ก็ต้อง ติดหนึบ และจากวันนั้น จนถึงวันนี้ ยังไม่มีใครมาแทนที่เธอ(เกม)ได้ 555 เพราะโดดเด่นด้วย ตัวละคร และการดำเนิน เรื่องราวในเกม ตำนานก็คือตำนาน !! ซึ่งวันนี้ เราจะมาพูด ในพาร์ทของ เกมผจญภัย ตะลุยด่าน เพื่อไปช่วยเจ้าหญิงกัน

Super Mario Bros. 1

Super Mario Bros. ภาคแรก เป็น เกมมาริโอ้ต้นฉบับ เริ่มต้นที่ รูปแบบใน คอมพิวเตอร์ ผู้เล่นเดี่ยว จะได้เล่น ตัวละครมาริโอ้ และหากเป็นโหมดเล่น 2 คน ผู้เล่นคนที่ 2 จะได้เล่นตัว ลุยจิ (น้องชายของมาริโอ้) ที่ขาสั่น และลื่น ตลอดเวลาที่กระโดด (ขัดใจม๊ากก) ภารกิจในซีซั่นนี้ คือ เขาจะต้องเดินทางฝ่าอาณาจักรเห็ด เพื่อไปช่วยเหลือเจ้าหญิง จากตัวร้ายที่ชื่อว่า บาวเซอร์ หรือ ราชาคุปปะ นั่นเอง

เกมนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนแปลงหนึ่ง ของ ตลาดเกมอเมริกา ยุค1980 ทำให้กลับมา เฟื่องฟูอีกครั้ง โดยเฉพาะ เกมประเภท side scrolling หรือจอเลื่อนไปด้านข้าง ๆ เป็นที่นิยม จนได้ติดตั้งไว้ เป็นเกมหลัก ในทุกเครื่องเกมของ Nintendo

ส่วนเรื่องของกราฟิกนั้น ยังไม่ดีนัก จะออกเป็นแนวภาพพิกเซลที่ยังไม่ละเอียดมาก แต่ก็มีความคลาสสิก น่ารัก ในแบบของยุคนั้น แถมยังเป็นเกม ที่สร้างภาพสีสัน ให้กับช่วงยุคสีเกมขาว ดำ หม่น ๆ ได้ดีทีเดียว

การคอนโทรล หรือ ปุ่มกดในเกม : หลัก ๆ ก็จะมี ปุ่มเดินไป – กลับ ซ้าย – ขวา ไต่ขึ้นข้างบน หรือโดดลงล่าง กระโดด เดินไว start หรือ pause เกม

ซูเปอร์มาริโอ้

การต่อสู้ ที่สามารถทำได้ คือการวิ่งไปเหยียบศัตรู และมีไอเทม เพิ่มความสามารถ อย่าง “เห็ด” ที่หลังจากเก็บแล้ว จะทำให้มาริโอตัวใหญ่ขึ้น หรือ “ดอกไม้เพลิง” ถ้ามาริโอ้เก็บได้ มาริโอ้ จะได้รับ การอัพเกรดไปอีกขั้น สามารถยิงลูกไฟ ในการสู้ได้ และไอเทม “ดาว” จะทำให้ มาริโอ้วิ่งชนศัตรูทุกตัวได้ โดยไม่เป็นอะไรเลย

และทุก ๆ การเก็บเหรียญครบ 100 เหรียญ จะทำให้ผู้เล่นได้ Life 1 ดาว ซึ่งหากเล่นผ่านด่าน จึงจะได้เพิ่ม หากโดนหักจนหมด เท่ากับแพ้ในด่านนั้น ๆ

สิ่งที่ผู้เล่นจะต้องมี คือ ความว่องไวในการแข่งกับเวลา และหลบหลีกศัตรู รวมถึงเก็บคะแนนระหว่างทางไปด้วย หลังจากที่เริ่มเป็นที่สนใจแล้ว มาริโอ้ ก็ได้ออกภาคต่อออกมา ซึ่งชื่อว่า

Super Mario Bros. 2 และ Super Mario Bros. 3

Super Mario Bros. 2

ซูเปอร์มาริโอ้

รู้ไหมว่า เกมมาริโอ้ ภาค 2 นี้ มีถึง 2 เวอร์ชั่น จริง ๆ แล้วในเวอร์ชั่นแรก อย่าง Super Mario โดนปรับแต่งแก้ไข เพื่อที่จะสามารถนำไปขายต่อในต่างประเทศได้ และยังมีคู่แข่ง อย่าง ค่าย SEGA อีกต่างหาก

อุปกรณ์ ที่เพิ่มเข้ามาจากเดิม คือ เครื่อง Famicom Disk System เป็นแผ่นเกม ที่ประหยัดกว่า รูปแบบตลับ ส่วนกราฟิก เป็นหน้าที่ของคุณ ตานาเบ้ ซึ่งได้รับหน้าที่ ให้เป็นไดเรกเตอร์ ในการพัฒนาเกม เวอร์ชั่นนี้ เขาคิดอยู่นาน จนได้ไปเจอ กับเกม Yume Kōjō: Doki Doki Panic เกมโฆษณา ของ Fuji Television

สุดท้ายแล้ว Nintendo ก็ได้ร่วมมือกับ Fuji Television ในการพัฒนาเวอร์ชั่น 2 ค่ะ สร้างรูปแบบ การเล่นเกมใหม่ มีตัวละครใหม่ ๆ จากการวิ่งเก็บเห็ด กระโดดเหยียบ มาเป็น “จับขว้าง” ขว้างศัตรูตัวหนึ่ง ให้ไปโดนอีกตัวหนึ่งจึงจะตาย

ซูเปอร์มาริโอ้

และ Super Mario Bros. 3

หากนับจากภาค 2 ก็ใช้เวลานานถึง 2 ปีกว่า ๆ จึงออกภาคที่ 3 มา ภาคนี้ มาริโอ้ ได้แปลงร่างเป็น แรคคูน ตัวอ้วนท้วมสมบูรณ์ ดูมีมิติยิ่งขึ้น ด้วย 3D แต่การเล่น ก็จะยังคล้ายกับ ภาคก่อน ๆ ไม่ได้รู้สึกเซอไพรส์มากค่ะ

จุดพัฒนาแบบก้าวกระโดด ซูเปอร์มาริโอ้ ไปกับ Super Mario World !

ซูเปอร์มาริโอ้ เวิลด์ ภาคนี้เป็นภาคที่เรียกได้ว่า สมบูรณ์แบบ ที่เล่นสักกี่ครั้ง ก็ไม่มีเบื่อ แอดวานซ์ไปขั้นขี่เต่า บินขึ้นฟ้าไปกันได้เลย 3D กว่าที่เคย ตัวละครมีความหันซ้าย ขวา หนา หลัง ต่างจากภาพแบน ๆ

จากภาคแรก แม้ว่าปลายทางเรื่อง ก็คือการช่วย เจ้าหญิงเห็ดตามเคย แต่มันสำคัญ ที่ความสนุกระหว่างทาง มากกว่า ^^ ดังแบบขายดิบขายดี เรียกได้ว่า ถ้าใครมีเครื่องเล่นเกม อย่างตลับเกม Nintendo หรือ Play station จะต้องมี เกมมาริโอ้คลาสสิค อย่างน้อย ๆ ละหนึ่งเกม

Super Mario World

เรียบเรียงโดย : M.Varin

Leave a comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *